a. อิเล็กตรอน
b. โปรตรอน
c. เลขอะตอม
d. นิวตรอน
2. ข้อความใดที่เป็นสมมุติฐานของนีลส์โบร์เกี่ยวกับโครงสร้างอะตอม
a. ธาตุทุกชนิดมีสเปกตรัมที่เฉพาะตัว
b. อิเล็กตรอนจะเปลี่ยนระดับพลังงานเมื่อมีการดูดหรือคายพลังงาน
c. ธาตุหนึ่งชนิดอาจมีอนุกรมสเปกตรัมได้มากกว่า 1 ชุด
d. พลังงานที่อิเล็กตรอนดูดหรือคายต้องมีค่าที่เฉพาะแน่นอน
3. สรุปว่า อะตอมทุกชนิดมีอนุภาคที่มีประจุลบเป็นองค์ประกอบ เรียกว่าอะไร?
a. โปรตอน
b.นิวตรอน
c.โฟตรอน
d.อิเล็กตรอน.
4. การที่รัทเทอร์ฟอร์ด ทำการทดลองยิงอนุภาคแอลฟาไปยังแผ่นทองคำบาง แล้วพบว่าโครงสร้างของอะตอมไม่เป็นไปตามแบบของทอมสัน เนื่องจากรัทเทอร์ฟอร์ดพบว่า
a. อนุภาคแอลฟาเกือบทั้งหมดเบนไปจากแนวเดิมเป็นมุมใด ๆ และบางทีมีการสะท้อนกลับ
b. อนุภาคแอลฟาแบนไปจากเดิมทุกทิศทางเท่า ๆ กัน
c. อนุภาคแอลฟาทั้งหมดวิ่งทะลุผ่านแผ่นทองคำไปในแนวเกือบเป็นเส้นตรง
d. อนุภาคแอลฟาบางส่วนเบนไปจากแนวเดิมเป็นมุมใด ๆ ทั้งที่เป็นส่วนใหญ่ผ่านไปในแนว
5. ปฏิกิริยาเคมีที่ต้องการความร้อนเข้ามาช่วยในการเกิดปฏิกิริยาจะดูดความร้อนจากสิ่งแวดล้อม
ทำให้อุณหภูมิลดลง เป็นปฏิกิริยาเคมีชนิดใด?
a.ปฏิกิริยาเคมีไม่มีความร้อน
b.ปฏิกิริยาเคมีมีความร้อน
c. ปฏิกิริยาเคมีคายความร้อนd. ปฏิกิริยาเคมีดูดความร้อน
6. การเพิ่มอุณหภูมิจะไม่เพิ่มสิ่งใดต่อไปนี้
a. ความเร็วของโมเลกุล
b. ความถี่ในการชนกันของอนุภาค
c. พลังงานกระตุ้น
d. อัตราการเกิดปฏิกิริยา
7. ข้อความเกี่ยวกับพันธะเคมีข้อใดถูก
a. พันธะเคมีเกิดขึ้นเมื่อแต่ละอะตอมมีอิเล็กตรอนเป็นจำนวนคี่เท่านั้น
b. พลังงานของพันธะเคมีจะเพิ่มขึ้นตามความยาวของพันธะเคมี
c. พันธะเคมีเกิดจากแรงกระทำระหว่างอิเล็กตรอนคู่กับอิเล็กตรอน
d. พันธะเคมีเกิดขึ้นจากแรงดึงดูดระหว่างนิวเคลียสและอิเล็กตรอน
8. ข้อความต่อไปนี้ข้อใดผิด
a. สารประกอบไอออนิกมักจะเกิดระหว่างธาตุที่มีพลังงานไอออไนเซชันต่ำกับธาตุที่มีอิเล็กโทรเนกาติวิตี้สูง
b. เมื่อหลอมเหลวสารประกอบไอออนิกนำไฟฟ้าได้
c. การเกิดสารประกอบไอออนิกจะเป็นปฏิกิริยาดูดความร้อน
d. สารประกอบไอออนิกยึดเหนี่ยวกันด้วยแรงไฟฟ้า
9. มุมพันธะในโมเลกุลของมีเทน แอมโมเนีย และน้ำ จะมีขนาดเรียงกันตามลำดับข้อใด
a. มีเทน > แอมโมเนีย > น้ำ
b. น้ำ > แอมโมเนีย > มีเทน
c. แอมโมเนีย > มีเทน > น้ำ
d. น้ำ > มีเทน > แอมโมเนีย
10. มวลของอะตอมคิดจากผลรวมของอะไร
a.โปรตอน + อิเล็กตรอน
b.โปรตอน + นิวตรอน
c.นิวตรอน + อิเล็กตรอน
d.โปรตอน + นิวเคลียส